ศึกเอลกราซิโก้ ครั้งที่2ของฤดูกาล2017/2018. บาร์เซโลน่าเปิดสนามคัมป์ นู ต้อนรับการมาเยือนของคู่ปรับตลอดกาลเรอัล มาดริด
เริ่มเกมส์ครึ่งเเรกได้เพียง 10 นาทีทีมเจ้าบ้านบาร์เซโลน่าที่สามารถพังประตูของทีมเยือนได้ก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่แซร์จี้ โรเเบร์โต้ เปิดบอลจากด้านขวาส่งให้หลุย ซัวเรส เป็นผู้ทำประตูเเรกของเกมส์นี้ ทำให้เจ้าบ้านนำไปก่อน 1 ประตูต่อ 0
หลังจากนั้นเพียงเเค่ 4 นาที ราชันชุดขาว เรอัล มาดริดสามารถตามตีเสมอได้โรนัลโดตอกส้นให้โทนี่โคลสเปิดบอลไปยังเสาสองให้เบนเซม่าโหม่งบอลเข้ากลางประตูก่อนที่จะเป็นโรนัลโด้ที่เข้าชาร์จบอลเเละป็นผู้ยิงประตูตีเสมอเป็น 1ประตูต่อ 1
จากนั้นทั้งสองทีมจึงเริ่มมีการประทะกันอย่างดุเดือดจนกระทั่งเข้าสู่ช่วงทดเวลานาทีสุดท้ายของครึ่งเเรก เซอร์จี้ โรเเบร์โต้ ผู้เล่นหมายเลข20 ทีมเจ้าบ้าน บาร์ฝ์เซโลน่า โดนใบเเดงไล่ออกจากสนาม จากจังหวะเล่นนอกเกมส์ชักมือเข้าใส่มาร์เชโล่ จบเกมส์ในครึ่งเเรกยังเสมอกันอยู่ที่ 1 ประตูต่อ 1
เริ่มเกมส์ในครึ่งหลัง ถึงเเม้ว่าอจ้าบ้านจะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเเต่ในนาทีที่ 52. ทีมเจ้าบ้านก้บวกสกอร์เพิ่มได้ จากจังหวะของซัวเรสที่ไหลบอลให้ลีโอเนล เมสซี่ลากแหวกเเนวรับของมาดริดไปได้และสามารถทำประตูขึ้นนำหนีทีมเยือนไปเป็น 2 ประตูต่อ 1
จากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันขึ้นทำประตูจนถึงนาทีที่ 72 เรอัลมาดริดที่ผู้เล่นมากกว่าบุกจนสามารถตามตีเสมอได้เป็น 2 ประตูต่อ 2จากจังหวะที่อเซนซิโอไหลบอลให้แกเร็ท เบล เป็นผู้ทำประตู
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสามารถบวกประตูเพิ่มได้ทำให้จบเกมส์ราชันชุดขาว เอรัลมาดริดบุกมายันเสมอเจ้าบุญทุ่มได้ 2ประตูต่อ 2. แบ่งคะเเนนได้ทีมละ1คะแนน โดยบาร์เซโลนาที่คว้าเเชมป์ลาลีก้า เเละแชมป์โกปา เดลเรย์ไปเเล้วในฤดูกาลนี้ยังคงสร้างสถิติไร้ผ่ายไปเเล้วถึง42นัดเเละมีคะเเนนนำจ่าฝูงอยู่ที่ 87 คะเเนน ส่วนเรอัล มาดริดที่สามารถเข้ารอบชิงยูฟ่า เเชมป์เปี้ยนลีกได้รั้งอันดับ 3 ในลาลีก้า มรคะเเนน 72. คะเเนน ภาพ Cr. FC Barcelona
Comentarios